วันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2557

โดนลวนลามบนรถตู้ประจำทางค่ะ

หนูชื่อไก่ค่ะ อายุ33ปี สูง165 หนัก 47 เป็นคนเชียงราย ทำงานที่กรุงเทพ  ตอนที่เขียนนี่อายุ40แล้วค่ะ
ฉันต้องกลับกรุงเทพในวันเสาร์เพราะเสร็จธุระที่บ้านแล้ว และต้องรีบกลับไปทำงานให้ทันวันจันทร์ แต่คนกลับกรุงเทพวันนี้มันเยอะเหลือเกินฉันก็ดันจองตั๋วรถช้า มีแต่เที่ยวค่ำรอบสามทุ่มครึ่งสี่ทุ่ม แต่ก็จำต้องเอาเพราะต้องรีบได้ที่นั่งชั้นล่าง แต่นั่งคนเดียวเพราะอีกที่ไม่มีคนโดยสารแล้วฉันจึงสบายเลยไม่ต้องนั่งข้างใครให้อึดอัด แต่เรื่องมันยังไม่ถึงคราวเลย ฉันติดนิสัยเวลาขึ้นรถทัวร์ชอบหลับ ฉันหลับไปนานเท่าไหร่ไม่ทราบแต่ได้ยินเสียงแว่วๆของลำโพงดังปลุกให้ฉันตื่นขึ้น ไฟในรถสว่างหมด รถหยุดสนิท ฉันคิดว่ามันไม่น่าจะถึงกรุงเทพเร็ว มองออกไปนอกหน้าต่างมีแต่ความมืดมิด ฉันถามคนโดยสารว่าเกิดอะไรขึ้นเขาบอกว่ารถเสียต้องจอดซ่อมนะไม่รู้ว่านานหรือไม่ ฉันพอจับใจความได้หลายคนออกไปเดินนอกรถกันฉันเป็นคนติดบุหรี่ พอเวลานานเข้าไม่มีทีท่าว่าจะซ่อมเสร็จ ฉันจึงลงไปสูบบุหรี่เห็นมีคนลงมาเดินเล่นบ้าง สูบบุหรี่กันบ้าง ฉันตื่นตาตื่นใจกับบรรยากาศที่มืดมิด ต้นไม้ใหญ่ๆปกคลุมทั่วภูเขาหลายลูกอากาศมันสดชื่นมากหิงห้อยบินไปทั่วหุบเขา ฉันเดินไปหาที่เหมาะๆสูบบุหรี่ฉันเดินไปริมทางไม่ไกลจากรถทัวร์ที่จอดอยู่กลัวว่าจะขึ้นรถไม่ทัน ฉันเดินไปได้อีกไม่กี่ก้าวรู้สึกว่าโลกหมุนติ้วๆหูได้ยินเสียงตุ๊บๆวิ้ง......แล้วก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย  
ฉันรู้สึกหนาวและก็ได้ยินเสียงรถใหญ่วิ่งฉันหลับไปนานแค่ไหนไม่รู้ฉันพยายามเพ่งนาฬิกาข้อมือเห็นเข็มสั้นมันชี้เลข1 ตอนแรกก็ยังไม่เชื่อตาตัวเอง พอดูอีกทีตีหนึ่งครึ่ง แล้วก้รู้สึกเจ้บแสบตามเนื้อตัว รอบตัวมืดมิดไปหมด  ได้ยินเสียงรถวิ่งและเสียงไฟอยู่หนือหัว พอจับใจความได้ว่าฉันลื่นตกเขา ฉันพยายามตะโกนเรียกคนให้ช่วย และพยายามปีนขึ้นไป แต่ทางมันชันมา ปีนไปด้วยร้องให้คนช่วยไปด้วยแต่ว่าไม่เห็นมีแสงฟานมาก เพราะเป็นเวลาดึกแบบนี้ถรที่ผ่านไปมาก้มีแต่รถบรรทุกรถสิบล้อเท่านั้น แต่เส้นทางนี้มันไม่ค่อยมีรถวิ่งกันเท่าไหร่ พอฉันขึ้นไปบนถนนได้บนถนนกลับว่างเปล่าฉันแทบจะร้องไห้หัวสมองมันไม่ทำงานอะไรเลยคิดถึงแต่บ้านคิดถึงแต่ครอบครัว ฉันตัดสินใจเดินตามทางโดยไม่รู้ว่าไปทิศไหนยังไงปากก็ตะโกนเรียก  น้ำตานองหน้า พอดีฉันเห็นแสงไฟแว็บๆเลาะตามต้นไม้และได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์มันเหมือนเสียงสวรรค์รถมอเตอร์ไซค์เก่าวิ่งเข้ามาใกล้ ฉันรีบขอความช่วยเหลือทันที เขาเป้นชาวบ้านในท้องที่ ได้ยินเสียงคนร้อง บ้านเขาอยู่บนเชิงดอยเป็นชาวไร่ เขาบอกว่าไปทำแผลอะไรก่อนอยู่ที่นี่นานๆอันตรายเสือมันชุม ขึนรอรถบรรทุกเดี๋ยวจะถูกทำร้ายเอา  ฉันดูเขาเป็นผู้ชายไม่เชิงว่าแก่ แต่หน้าตาเขาดำกร้านมีหนวด เพราะไม่ได้มีเวลามาสนใจความสวยความงามแต่ด้วยที่เขาออกมาตามหาเสียงเรียกดึกๆดึ่นๆน่าจะเป้นคนที่ใจดี ไม่น่าจะมีพิษภัยอะไร
เขาพาฉันซ้อนท้ายพามาที่บ้าน ฉันเห้นว่ามันเป็นเพียงกระท่อมที่มุงด้วยสังกะสีเก่าๆมากกว่า บ้านที่ตีฝาบ้านด้วยไม้ปะๆพอที่จะซุกหัวนอน เขาสอบถามชื่อ และเรื่องราวต่างๆฉันก็เล่าให้ฟัง เขาเอาน้ำเปล่ามาล้างแผล มีแผลถลอกตามแขนขาหัวไหล่ เนื้อตัวเปลื้อนดินโคลนฉันกลุ้มอกกลุ้มใจมาก เป้นใครก็คงนั่งหัวเราะไม่ออกเมื่อเจอสถาณการณ์นี้ พอฉันตั้งสติได้เริ่มสอบถามเขาเพื่อเป้นมารยาท เขาชื่อ สน  อายุ30  เป็นโสด พ่อแม่เสียหมดแล้ว มาปลูกบ้านอยู่ที่นี่หาของป่าทำไร่ทำสวนไปตามประสา เขาเป้นคนที่ดีจริงหาข้าวหาปลามาให้กินแต่ฉันก็กินไม่ลงหรอกค่ะ เขาบอกว่านอนที่นี่ก่อนรุ่งเช้าค่อยไปดึกๆแบบนี้ไปไหนก็ไม่ไกลหรอก ที่นี่ไกลจากตัวเมืองมากและอีกอย่างรถประจำทางก็ต้องไปขึ้นที่หมู่บ้าน เดี๋ยวพรุ่งนี้จะพาไปหาผู้ใหญ่บ้านให้เขาช่วยเหลือ ฉันก็ไม่พูดอะไรมากบอกเพียงคงนอนไม่หลับหรอกในสถาณการณ์แบบนี้  สนก็หาผ้ามาให้ห่มคลุมเพราะฉันก็ใส่เสื้อผ้าน้อยชิ้น  เขามานั่งพูดคุยกับไก่เป็นเพื่อนคลายเหงา เขาเอาเหล้าขาวมาดื่มด้วย เขารินมาให้ฉันบอกว่ากินเหอะจะได้ไม่คิดมาก ซึ่งฉันก็คิดว่ามันน่าจะช่วยได้ เหล้าขาวที่บ้านฉันก็กินกันประจำ แต่เหล้าที่นี่แรงมากร้อนตัววาบแทบสำลัก สนหัวเราะเห็นฉันพยายามกลืนเหล้า ทำหน้าแหย๋เก สนยื่นมะม่วงดองมาให้เป็นกับแกล้ม ฉันกับสนนั่งดื่มเหล้ากันจนติดลม ฉันเริ่มเมาๆสนก่อไฟที่เตาในบ้านสงสัยกลัวฉันหนาวหรือจะมำอะไรฉันยังไม่ทราบ เขาขอตัวลงจากบ้านไปหายไปพักใหญ่ พอดีฉันเห็นหนังสือเหน็บอยู่ที่เสาบ้าน เพราะบ้านของขาวป่าเขาไม่มีใครมาสนใจหนังสือติดบ้านเท่าไหร่ ฉันก็กำลังว่างรอคอยเวลา เลยหยิบเอาหนังสือออกมา เป้นหนังสือเก่าๆ ทันทีที่เห็นหน้าปกฉันก็ตกใจ เพราะมันคือหนังสือโป๊ ฉันพลิกเปิดหนังสือแบบลวกๆเห็นรูปผู้หญิงถูกผู้ชายกำลังเย็ดกันมีเรื่องราวเป็นนิยายให้อ่านประกอบแต่ฉันไม่ได้อ่านหรอก  ฉันรีบเอาเก็บไว้ที่เดิมกลัวเขามาเห็น ซักพักสนกลับมาพร้อมไก่ตัวพอเหมาะที่ถอนขนแล้ว เขาเอามาล้างแล้วเสียบไม้ย่างระหว่างรอไก่สุกเราสองคนก็ดื่มเหล้าเกือบหมดขวด สนเอาเหล้ามาออกมาอีกขวดจัดแจงกับแกล้มไก่ย่างเสร็จสรรพ ดูเวลาปาเข้าไปตีสองกว่าๆแล้ว ฉันรู้สึกปวดฉี่ขึ้นมาแต่ไม่รู้ว่าห้องน้ำอยู่ที่ไหน “นี่สนห้องน้ำอยู่ที่ไหนจ๊ะฉันอยากเข้าห้องน้ำหน่อย” ห้องน้ำบ้านเขาอยู่นอกตัวบ้านอยู่บริเวณด้านข้างของบ้าน ซึ่งมันมืดมากสนจึงนำทางไป เขากลัวว่าจะมีเสือมาทำร้าย เพราะแถวนี้เสือมีหลายตัว ห้องส้วมบ้านเขาใช้สังกะสีเก่าๆมาตีเป็นฝาผนังซึ่งมันก็เต็มไปด้วยรูและประตูห้องน้ำก็ไม่ได้ปิดสนิดีมันมีร่องประตูที่ห่างเท่าฝามือ คือว่าถ้าใครมองเข้ามาก็คงเห็นหมด สนเปิดไฟในห้องน้ำเพื่อดูว่ามีงูหรือตัวอะไรอยู่ จากนั้นจึงให้ฉันเข้าไปทำธุระ ในขณะที่ฉันอยู่ในห้องน้ำนั่งฉี่บนส้วมซึม ฉันรู้สึกว่ามีสายตาจับจ้องฉันตลอดเวลาหรือไม่ก้คงคิดไปเองฉันได้ดินเสียงของสนเดินห่างออกไป ฉันมองผ่านช่องว่างตรงประตูเห็นเขาเดินไปใต้ถุนบ้านส่องไฟฉายดูอะไรไม่รู้ พอดีฉันเหลือบไปเห็นหนังสือแหน็บอยู่หลังคาจึงดึงออกมาดู เป้นหนังสือโป๊อีกแล้วคราวนี้มีแต่ภาพหนาพอควรฉันเปิดๆดูเป็นรูปชายหญิงกำลังเย็ดกัน หลายคู่ทีเดียวฉันรีบๆเปิดดูแล้วเก็บไว้ที่เดิมเพราะสนตะโกนเรียก เขากลัวฉันจะเป็นอะไร ฉันจึงรีบออกไปแต่ว่าความรู้สึกตื่นเต้นยังมีอยู่ แต่แปลงที่ฉันเริ่มหายกังวลเรื่องตกรถไปแล้วคงเพราะเหล้าที่ฉันดื่มไปทำให้ลืมเรื่องที่น่าตกใจไปได้
เราทั้งคู่จึงขึ้นไปนั่งดื่มกันต่อพอดีไก่สุก บ้านของสนไม่มีทีวี วิทยุอะไรจึงทำให้บรรยากาศมันเงียบๆแทรกด้วยเสียงที่เราพูดคุยกันเป็นระยะๆ ฉันนั่งตรงเสาที่เขาเก็บหนังสือโป๊เอาไว้ฉันแกล้งเขี่ยให้มันตกลงมา แล้วหยิบขึ้นมาดู สนถึงกับหน้าแดง ธรรมดาที่หนุ่มกลัดมันอยู่ตัวคนเดียวจะมีของพวกนี้อยู่ เขาก็แก้ตัวแบบขัดๆวันเพื่อนมาลืมไว้อะไรไปเรื่อย ฉันจึงแกล้งถามว่าอ่านหมดหรือยัง เขาก็อมยิ้มตอบค่อยๆ “พี่รู้ว่าหนุ่มๆก็ต้องมีกันทุกคนแบบนี้”ไก่แทนตัวเองว่าพี่เพราะอายุเยอะกว่า “เมื่อก่อนแฟนพี่ก็มี เป็นวีดีโอก็มี ถ้าชอบเดี๋ยวพี่ส่งมาให้” สนก็ไม่ได้ตอบอะไรเขาทำท่าอายๆ ฉันจึงถามว่ามีแฟนหรือยัง สนก็บอกว่าไม่มีไม่เคยผ่านหญิงเลย  

เขากอดรัดฉันแน่นมือไม้เขาลูบไล้ทั่วเรือนร่าง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น